วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บทที่ 10 กฎหมายและความปลอดภัยบนอิเทอร์เน็ต


กฏหมายและความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ต
            ในโลกยุคปัจจุบัน คือ สังคมของสารสนเทศซึ่งสามารถสื่อสารข้อมูลข่าวสารได้อย่างอิสระโดยมีระบบเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมีการพัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง  ดังนั้น  จึงจำเป็นต้องมีกฏหมายมารองรับในการดำเนินงานด้านธุรกรรมต่าง ๆ  เพื่อความถูกต้อง   เช่น
กฏหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ
ได้มีการยกร่างกฏหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งหมด  6  ฉบับ  คือ
1.   กฏหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์  (Electronic  Transactions Law)
2.   กฏหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์  (Electronic  Signatures Law)
3.   กฏหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์  (Computer  Crime Law)
4.   กฏหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์  (Electronic  Fund  Transfer Law)
5.   กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  (Data  Protection Law)
6.   กฏหมายลำดับรองของรัฐธรรมนูญ มาตรา  78  ว่าด้วยการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศอย่างทั่วถึง และเท่าเทียมกัน  (Universal  Access Law)
มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
ได้จัดแบ่งออกเป็น  4 ประเภท  คือ
1.   มาตรการด้านเทคโนโลยี
2.   มาตรการด้านกฏหมาย
3.   มาตรการด้านความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
4.   มาตรการทางสังคม
ภัยร้ายบนอินเตอร์เน็ต
ภัยร้ายบนอินเตอร์เน็ตที่จัดอยู่ในแบบของการล่อล่วง โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย  (http:ictlaw.thaigov.net/ictlaws.html)  เช่น
โปรแกรมรหัสลับ  (Encryption  Software)
 โปรแกรมนี้จะล็อกแฟ้มข้อมูลหรือข้อความไว้  เพื่อให้เปิดได้เฉพาะในหมู่ผู้ใช้ที่มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดเดียวกัน หรือมี รหัสผ่านหรือ “Password”  ที่ใช้เปิดแฟ้มนี้  อาจเป็นชุดตัวเลขที่ตั้งขึ้นมาแบบสุ่ม  โปรแกรมชนิดนี้โดยทั่วไปนิยมใช้กันในเครื่องมืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
                      โปรแกรมแปลงภาพและแต่งภาพ
เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ก่อให้เกิดสื่อด้านลามกขึ้นมากมายเพราะมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในการตกแต่งภาพและแปลงภาพในรูปแบบต่าง ๆ
          อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
                        คือ  ไวรัสคอมพิวเตอร์  ซึ่งส่วนมากจะถูกเผยแพร่มาจากระบบเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน  อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจ  10  อันดับ  ได้แก่
1.   การทำให้ระบบไม่สามารถให้บริการได้
2.   การขโมยข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต  โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นความลับต่าง ๆ
3.   การโจมตีระบบจากคนภายในองค์กร
4.   การโจมตีระบบเครื่องข่ายไร้สาย
5.   การฉ้อโกงเงิน  โดยใช้คอมพิวเตอร์แอบโอนเงินจากบัญชีผู้อื่นเข้าบัยชีตนเอง
6.   การถูกขโมยคอมพิวเตอร์  N0tebook
7.   การเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
8.   การฉ้อโกงด้านโทรคมนาคม
9.   การใช้เว็บแอพพลิเคชั่นด้านสาธารณะในทางที่ผิด  โดยใช้คอมพิวเตอร์ แพร่ภาพ  เสียง  ลามก  อนาจาร
และข้อมูลไม่เหมาะสม
10.   การเปลี่ยนโฉมเว็บไซต์  โดยไม่ได้รับอนุญาต

บัญญัติ  10  ประการ  ด้านความปลอดภัยของอินเตอร์เน็ต

1.   ตั้งรหัสผ่านที่ยากแก่การเดา
2.   เปลี่ยนรหัสผ่านสม่ำเสมอ เช่น ทุก 3 เดือน
3.   ปรับปรุงโปรแกรมป้องกันไวรัสตลอดเวลา
4.   ให้ความรู้แก่บุคลากรในเรื่องความปลอดภัยในการรับไฟล์  หรือการดาวน์โหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ต
5.   ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับเครื่อข่ายอย่างสมบูรณ์
6.   ประเมินสถานการณ์ของความปลอดภัยในเครื่อข่ายอย่างสม่ำเสมอ
7.   ลบรหัสผ่าน และบัญชีการใช้ของพนักงานที่ออกจากหน่วยงานทันที
8.   วางระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับการเข้าถึงระบบของพนักงานจากภายนองหน่วยงาน
9.   ปรับปรุงซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ
10.         ไม่ใช้การบริการบางตัวบนเครื่อข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างไม่จำเป็น
 วิธีการประกอบอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
1.   Data  Diddling  คือ  การเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.   Trojan Horse  คือ  การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่แฝงไว้ในโปรแกรมที่มีประโยชน์
3.   Salami Techniques  คือ  วิธีการปัดเศษจำนวนเงิน
4.   Superzapping    เปรียบเสมือนเป็นกุญแจผี
5.   Trap Doors   เป็นการเขียนโปรแกรมที่เลียนแบบคล้ายหน้าจอปกติของระบบคอมพิวเตอร์เพื่อล่วงผู้ที่มาใช้คอมพิวเตอร์
6.   Logic Bombs   เป็นการเขียนโปรแกรมคำสั่งอย่างมีเงื่อนไขไว้
7.   Asynchronous Attack   คือ  สามรถทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน โดยการประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นจะเสร็จไม่พร้อมกัน
8.   Scavenging   คือ  วิธีการที่จะได้ข้อมูลที่ทิ้งไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
9.   Data   Leakage  คือ   การทำให้ข้อมูลรั่วไหลออกไป  อาจโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
10.         Piggybacking  วิธีการนี้สามรถทำได้ทั้งทางกายภาพ  (Physical)
11.         Impersonation   คือ  การที่คนร้ายแกล้งปลอมเป็นบุคคลอื่นที่มีอำนาจ  หรือได้รับอนุญาต
12.         Wiretapping   เป็นการลักลอบดักฟังสัญญาณการสื่อสารโดยเจตนาที่จะได้รับประโยชน์
13.         Simulation and Modeling   เป็นเครื่องมือในการวางแผนการควบคุมและติดตามความเคลื่อนไหวในการประกอบอาชญากรรม
 ประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
            สามารถแบ่งประเภทของอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ได้   5  ประเภท   คือ
1.   พวกมือใหม่หรือมือสมัครเล่น  อยากทดลองความรู้  และส่วนใหญ่จะมิใช่ผู้ที่เป็นอาชญากรโดยนิสัย มิได้ดำรงชีพโดยการกระทำผิด
2.   นักเจาะข้อมูล (Hacker) ผู้ที่ชอบเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
3.   อาชญากรในรูปแบบเดิมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ
4.   อาชญากรมืออาชีพ  คนพวกนี้จะดำรงชีพจากการกระทำความผิด
5.   พวกหัวรุนแรงคลั่งอุดมการณ์หรือลัทธิ

บทที่ 9 การสนทนาออนไลน์


การสนทนาออนไลน์
รูปแบบการสนทนาออนไลท์  (Chat)
สนทนาแบบออนไลน์ (IRC หรือ Chat)
ผู้ใช้บริการสามารถคุยโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ ในอินเตอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกัน (โดยการพิมพ์เข้าไปทางคีย์บอร์ด) เสมือนกับการคุยกันแต่ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของทั้งสองที่ ซึ่งก็สนุกและรวดเร็วดี บริการสนทนาแบบออนลายน ์นี้เรียกว่า Talk เนื่องจากใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า Talk ติดต่อกัน หรือจะคุยกันเป็นกลุ่มหลายๆ คนในลักษณะของการ Chat (ชื่อเต็มๆ ว่า Internet Relay Chat หรือ IRC ก็ได้) ซึ่งในปัจจุบันก็ได้พัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถใช้ภาพสามมิติ ภาพเคลื่อนไหวหรือการ์ตูนต่างๆ แทนตัวคนที่สนทนากันได้แล้ว และยังสามารถคุยกันด้วยเสียงในแบบเดียวกับ โทรศัพท์ ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลบนจอภาพหรือในเครื่องของผู้สนทนาแต่ละฝ่ายได้อีกด้วยโดย การทำงาน แบบนี้ก็จะอาศัย Protocol ช่วยในการติดต่ออีก Protocol นึงซึ่งมีชื่อว่า IRC(Internet Relay Chat) ซึ่งก็เป็น protocol อีกชนิดหนึ่งบนเครือข่ายอินเทอเน็ตที่สามารถทำให้ User หลายคนเข้ามาคุยพร้อมกันได้ผ่านตัวหนังสือแบบ Real time โดยจะมีหลักการคือ
มีเครื่อง Server ซึ่งจะเรียกว่าเป็น IRC server ก็ได้ซึ่ง server นี้ก็จะหมายถึงฮาร์ดแวร์+ซอฟแวร์โดยที่ฮาร์ดแวร ์คือคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นจะต้องมีทรัพยากรระบบค่อนข้างสูงและจะต้องมีมากกว่า 1 เครื่องเพื่อลองรับ User หลายคน
เครื่องของเราจะทำหน้ามี่เป็นเครื่อง Client ซึ่งก็คือคอมพิวเตอร์ที่ เชื่อมต่อเข้ากับอินเทอเน็ตได้แบบธรรมดาโดย ที่ไม่ต้องารทรัพยากรมากนัก และก็ต้องมีโปรแกรมสำหรับเชื่อมต่อเข้า Irc server ได้

พื้นฐานการทำงานของ IRC
เมื่อเครื่องของเราสามรถติดต่อกับ Server ได้แล้ว server นั้นจะมีการแบ่งช่องสนทนาออกเป็นกลุ่มๆ(Channel) หรืออาจจะเรียกว่า ห้องสนทนาก็ได้โดยเมื่อเราเข้าสู่ server แล้วเราจะมีชื่อเรียกเป็นของตัวเอง (Nickname) เมื่อเราพิมข้อความลงไปข้อความนั้นก็จะส่งผ่าน server และไปปรากฏยังเครื่อง Client ของสมาชิกแต่ละคนในห้องนั้น ไม่ใช่แค่ข้อความสั้นๆอย่างเดียวผู้ใช้ IRC ยังสามารถที่จะส่งไฟล์ภาพ เสียง วีดีโอ หรือไฟล์ทุกชนิดกันได้โดยตรง ในปัจจุบัน การเล่น IRC ไม่ได้มีแค่ข้อความธรรมเท่านั้น ยังมีการสนทนา ที่ใช้ protocol IRC เช่นเดียวกันอีกแต่ว่า เราสามารถที่จะสมมุติรูปร่างหน้าตา เสื้อผ้า ทำหน้าตายิ้มแย้ม โกรธ โดยอาจจำลองเข้าไปอยู่ในโลกเสมือน VR (Virtual Realiity)ซึ่งจะเป็น ภาพ 3 มิติ เราสามรถที่จะเดินเข้าห้อง ออกจากห้อง จับมือ กับผู้ใช้คนอื่นได้ และอื่นๆ อีกมากมายได้ ซึ่งในปัจจบันก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจาก IRC เป็นกิจกรรมที่เปิดกว้างกล่าวคือเป็นใครก็ได้ที่จะเข้ามาร่วมก็ได้รวมทั้งไม่มีขีดจำกัดหรือกฏ เกณฑ์ใดๆมากมาย นัก เพราะฉนั้น IRC จึงเป็นศูนย์รวมที่สามารถรวบรวมผู้คนหลากหลายไม่ว่าจะเป็นวัย อาชีพ ประสบการณ์ต่างๆมาไว้ได้อย่างกลมกลืน แต่ว่าแต่ละคนต่างก็มีความสนใจในการที่จะเข้าช่องสนทนาต่างๆกันไป
 รูปแบบการสนทนาแบบออนไลน์
Netmeeting
เป็นโปรแกรมที่มีชื่อมาก เพราะทำให้คนจากซีกโลกหนึ่ง สามารถติดต่อกับอีกซีกโลก ด้วยเสียง จากคอมพิวเตอร์ ซึ่งคล้ายโทรศัพท์ แต่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่อย่างใด และโปรแกรมในลักษณะนี้ ยังเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับ เครื่องรับภาพ digital ดังนั้นคนที่มีโปรแกรมนี้จะคุยกัน และเห็นภาพของแต่ละฝ่าย จึงทำให้การติดต่อมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพิ่มเติม
บริการนี้ผู้ใช้ต้องไป download โปรแกรมาติดตั้ง แต่ปัญหาที่สำคัญในการติดต่อแบบนี้คือเรื่องของความเร็ว เพราะการติดต่อด้วยเสียง อาจได้เสียงที่ไม่ชัดเจน หรืออาจขาดหายระหว่างการสนทนา หากความเร็วในการเชื่อมต่อ internet ไม่เร็วพอ และจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าจะเพิ่มการรับ-ส่งภาพ แบบ VDO สำหรับเครื่องที่เชื่อมต่อด้วยความเร็วต่ำ
ICQ
บริการนี้เป็น บริการที่เยี่ยมมาก และได้รับความนิยม เพิ่มขึ้นทุกวัน เพราะผู้ที่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตนเอง และมีโปรแกรม ICQ อยู่ในเครื่อง จะสามารถติดต่อกับเพื่อน ที่ใช้โปรแกรม ICQ อยู่ได้อย่างสะดวก เพราะเมื่อเปิดเครื่อง โปรแกรมนี้จะแสดงสถานะของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำการตรวจสอบไว้ ว่า Online อยู่หรือไม่ เปรียบเสมือนการมี pager ติดคอมพิวเตอร์ไว้ทีเดียว
ได้มีผู้พัฒนาโปรแกรมเสริมอีกมากมาย ให้ ICQ สามารถทำงานได้หลายหลายมากขึ้น และยิ่งแพร่กระจายได้เร็ว ในกลุ่มหนุ่มสาว ที่ต้องการเพิ่ม เพราะจะแสดงสถานะของ เครื่องเพื่อน เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถติดต่อได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องโทรไปถามบ่อย ๆ ว่าเปิดคอมพิวเตอร์หรือยัง เป็นต้น
บริการนี้ผู้ใช้ต้องไป download โปรแกรมาติดตั้ง และเป็นโปรแกรมที่ download ได้ฟรี
IRC
บริการนี้คนไทยทุกวัย ชอบกันมาก โดยเฉพาะโปรแกรม PIRC เพราะทำให้สามารถคุยกับใครก็ได้ ที่ใช้โปรแกรม PIRC การคุยกันจะใช้ผ่านแป้นพิมพ์เป็นสำคัญ โดยไม่ต้องเห็นหน้า หรือรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่พิมพ์ออกไป อย่างจริงจัง เพราะไม่มีการควบคุมจากศูนย์ที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนมีอิสระที่จะคิด จะส่งข้อมูลออกไป ได้ทุกชาติ ทุกภาษา
ใน IRC ใด ๆ มักจะมีการแบ่งเป็นห้อง ๆ โดยมีชื่อห้องบอกว่า ในห้องนั้นจะคุยกันเรื่องอะไร เช่น "วิธีแก้เหงา" หากใครต้องการคุยถึงวิธีแก้เหงา เข้าไปในห้องนั้น หรือหลาย ๆ ห้องได้ และแสดงความเห็นอะไรออกไปก็ได้ และยังสามารถเลือกคุยกับใครเป็นการส่วนตัว หรือจะคุยให้ทุกคน ที่เปิดหัวข้อนี้รับทราบก็ได้ เมื่อคุยกันถูกคอก็สามารถ ที่จะนัดพบกันตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อนสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หรือจะนัดคุยกันในคอมพิวเตอร์ ในครั้งต่อไป ในห้องที่กำหนดขึ้นก็ได้ จึงทำให้ทุกเพศทุกวัย ชื่นชอบที่จะใช้บริการนี้อย่างมาก
บริการนี้ผู้ใช้ต้องไป download โปรแกรมาติดตั้ง และเป็น Shareware หากผู้ใช้พอใจ สามารถที่จะลงทะเบียน เพื่อจ่ายเงิน $20 ได้

บทที่ 8 การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต


การโอนย้ายข้อมูลข้ามเครือข่าย
ลักษณะของการโอนย้ายข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

การโอนย้ายข้อมูลข้ามเครือข่าย
แนวคิด
       การโอนย้ายข้อมูลบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถกระทำได้ทั้งในรูปแบบของรูปภาพและประเภทไฟล์ข้อมูล มีลักษณะของการโอนย้ายข้อมูลทั้งการดาวน์โหลด และการอัพโหลด ซึ่งสามารถจัดแบ่งประเภทของโปรแกรมที่ดาวน์โหลดออกเป็น 4 ประเภท คือ แชร์แวร์ เด โมแวร์ โปรแกรมรุ่นเบต้า และโปรแกรมฟรี โดยเมื่อต้องการดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลจากเว็บไซต์ จะมี รายละเอียดเพื่อ บอกถึงประเภท ของโปรแกรม  การอัพโหลดข้อมูลมีความสำคัญ ถ้าเราต้องการสร้างโฮมเพจของตนเอง ซึ่งอาจจะใช้รูปแบบของการขอพื้นที่ฟรีในการสร้างโฮมเพจจากเว็บไซต์ต่าง ๆ

ลักษณะของการโอนย้ายข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
        ลักษณะของการโอนย้ายข้อมูลบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
การดาวน์โหลด  (Download )
     การดาวน์โหลด คือ การนำเอาไฟล์ข้อมูล โปรแกรม หรือรูปภาพ จากระบบเครือข่าย อินเตอร์เน็ตมาเก็บไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา เช่น การดาวน์โหลดโปรแกรมป้องกัน ไวรัส จาก  www.sanook.com  มาใช้งานที่เครื่องของเรา เป็นต้น
ภาพนี้แสดงลักษณะของการดาวน์โหลดข้อมูลจากระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
การอัพโหลด (Upload)
         การอัพโหลด คือ การนำเอาไฟล์ข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ไปเก็บไว้ยังระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การสร้างเว็บไซต์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เมื่อต้องการที่จะเผยแพร่ข้อมูลบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ก็จะต้องส่งข้อมูลเหล่านั้นไปเก็บยังเครื่องคอมพิวเตอร์ แม่ข่ายที่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือ เรียกว่า Web Server
ภาพนี้แสดงลักษณะของการอัพโหลดข้อมูลไปไว้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ประเภทของโปรแกรมที่ดาวน์โหลด
       ในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต สามารถที่จะดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ จากอินเตอร์เน็ตมาใช้งาน ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้สามารถจัดแบ่งประเภทของโปรแกรมเป็น 4 ประเภท คือ
แชร์แวร์  ( Shareware )
        แชร์แวร์  ( Shareware )  คือ โปรแกรมรุ่นทดลองใช้ ซึ่งผู้ผลิตโปรแกรมจะให้เราดาวน์โหลด โปรแกรมนี้มาทดลองใช้ โดยจะกำหนดระยะเวลาในการใช้งาน เช่น 30 วัน หรือ 60 วัน นับจากวันที่เราติดตั้งโปรแกรมเพื่อใช้งานในคอมพิวเตอร์ของเรา
         ตัวอย่าง โปรแกรม SEISH V2   เป็นโปรแกรมแชร์แวร์ ที่ให้ทดลองใช้ เมื่อครบกำหนดเวลาในการทดลองใช้จะไม่สามารถเปิดโปรแกรมนี้ขึ้นมาใช้งานได้ เพราะการเปิดโปรแกรมขึ้นมาใช้งานจะถามหา  Site Key เพื่อให้กรอกหมายเลขลงทะเบียน ซึ่งจะต้องสั่งซื้อโปรแกรมจากผู้ผลิตจึงจะให้หมายเลขของ Site Key แล้วก็จะสามารถใช้โปรแกรมทำงานได้ต่อไป
เดโมแวร์  ( Demoware)
      เดโมแวร์  (Demoware )  คือ โปรแกรมรุ่นทดลองใช้ มีลักษณะคล้ายกับโปรแกรมประเภท แชร์แวร์  แต่จะถูกจำกัดขอบเขตของการใช้งาน  ซึ่งโปรแกรมในรูปแบบเต็มอาจจะมีเมนูสำหรับการใช้งาน 5 เมนู แต่โปรแกรมเดโมเวร์นั้นอาจจะเปิดให้เราสามารถใช้งานเพียง 2 เมนู เป็นการใช้ทดลองใช้เพียงบางส่วนของโปรแกรม
โปรแกรมรุ่นเบต้า ( Beta Software )
        โปรแกรมรุ่นเบต้า ( Beta Software )  บางครั้งอาจจะเรียกว่า โปรแกรมรุ่น อัลฟา ( Alfa Software )ซึ่งโปรแกรมในรูปแบบนี้ จะเป็นโปรแกรมรุ่นที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ผู้ผลิตโปรแกรมมักจะนำโปรแกรมที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์นี้มาให้ทดลองใช้งาน และเมื่อมีปัญหาใดในการใช้งานก็ให้ผู้ใช้แจ้งไปยังผู้ผลิตเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป
โปรแกรมฟรี  (Freeware)
         บนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมีโปรแกรมมากมายที่ให้บริการฟรี ซึ่งสามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ หรือบางเว็บไซต์ก็จะเป็นตัวกลางที่ช่วยรวบรวมโปรแกรมฟรีเหล่านี้มาไว้ให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดได้ง่ายขึ้น ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้อาจจะมีคุณสมบัติในการทำงานได้ดีเช่นเดียวกับโปรแกรมที่มีการซื้อขายทั่วไป เช่น โปรแกรมระบบปฏิบัติการ  Linux เป็นต้น
ขั้นตอนการดาวน์โหลด
      สามารถจัดแบ่งรูปแบบของการดาวน์โหลดข้อมูลออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.              การดาวน์โหลดประเภทไฟล์ข้อมูล
ไฟล์ข้อมูลประกอบด้วย ไฟล์โปรแกรม ไฟล์เกม และไฟล์ประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย
ตัวอย่าง  การดาวน์โหลดโปรแกรม Loy Dict.2005 จากเว็บไซต์ ww.kapook.com สามารถดำเนินการดาวน์โหลดได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
                        พิมพ์  ww.kapook.com ลงในช่อง Address
                        เลือกโปรแกรมที่ต้องการดาวน์โหลด
                        เมื่อค้นหาโปรแกรมที่ต้องการดาวน์โหลดได้เรียบร้อยแล้ว ภายในรายละเอียดของโปรแกรมจะแสดงตำแหน่งของการดาวน์โหลดเพื่อให้ผู้ใช้คลิกเลือก และโปรแกรมจะทำการดาวน์โหลดทันที
                        เมื่อคลิกที่ Download  จะแสดงหน้าต่าง File Download เพื่อให้เลือก ถ้าเราต้องการแค่เปิดข้อมูลขึ้นมาดูเท่านั้น ให้เลือก Open แต่ถ้าต้องการบันทึกเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราด้วยให้เลือก Save
                        เมือคลิกเลือกที่ Save เพื่อบันทึกข้อมูลที่ดาวน์โหลดเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา สิ่งที่ต้องการกำหนดต่อไปคือ ตำแหน่งที่จะนำข้อมูลนี้ไปเก็บไว้ในช่อง Save in :
                        เริ่มทำการดาวน์โหลดข้อมูลมาเก็บไว้ในตำแหน่งที่กำหนดให้ โดยจะแสดงลักษณะสถานะของการดาวน์โหลดตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่ง ดาวน์โหลดข้อมูลเสร็จที่หน้าต่าง File Download
                        เมื่อดาวน์โหลดข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกเลือกตรวจสอบ
          Open              :   เพื่อเปิดดูข้อมูล หรือโปรแกรมที่ได้ดาวน์โหลดไว้
          Open Folder  :   เพื่อเปิด Drive และโฟลเดอร์ที่จัดเก็บข้อมูล หรือโปรแกรมที่ดาวน์โหลดไว้
          Close             :   ปิดหน้าต่างการดาวน์โหลด
                         เมื่อดาวน์โหลดข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้งานได้ในลำดับต่อไป
2.              การดาวน์โหลดประเภทรูปภาพ
            การดาวน์โหลดประเภทรูปภาพสามารถทำได้หลายกรณี เช่น บันทึกเป็นไฟล์ชนิดรูปภาพบันทึกเป็นภาพ Background บันทึกเป็นภาพ Desktop เป็นต้น
การจัดการข้อมูลด้วยโปรแกรม Winzip
        บางครั้งไฟล์หรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่เปิดให้ดาวน์โหลดทางอินเตอร์เน็ตนั้นมีขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องบีบอัดข้อมูลให้มีขนาดเล็กก่อน เพื่อที่จะทำให้การดาวน์โหลดทำได้รวดเร็วขึ้น เราสามารถสังเกตได้ว่าไฟล์ใดใช้วิธีบีบอัดข้อมูลมา โดยดูได้จากนามสกุลของไฟล์นั้น จะมีนามสกุล . zip เมื่อดาวน์โหลดข้อมูลมาแล้วต้องทำการขยายไฟล์ข้อมูลก่อนจึงจะสามารถอ่านข้อมูล หรือนำไปใช้งานได้ โปรแกรมที่ใช้ช่วยในการขยายไฟล์ คือ โปรแกรม Winzip
        โปรแกรม Winzip จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 แบบ คือ
1.             Winzip จะช่วยอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับขั้นตอนในการทำงาน โดยเพียงแต่ตอบคำถามทีละขั้นตอนตามที่โปรแกรมกำหนดเท่านั้น
2.             Classic แบบนี้ผู้ใช้โปรแกรมจะเป็นคนกำหนดทั้งหมดตามความต้องการใช้งาน

การขอพื้นที่สร้างโฮมเพจ
         การขอพื้นที่สร้างโฮมเพจ สามารถขอได้จากเว็บไซต์หลากหลายที่ให้บริการ ซึ่งเมื่อได้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์เพื่อสร้างโฮมเพจแล้ว จะได้รับพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล และเมื่อเราได้สร้างโฮมเพจของเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถที่จะทำการอัพโหลด โฮมเพจไปไว้ยังเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ทันที
การโอนย้ายข้อมูลด้วยโปรแกรม WS-FTP
          โปรแกรม  WS-FTP จะช่วยให้เราสามารถอัพโหลด ( Upload ) ข้อมูลไปยังระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงได้ทำการติดตั้งโปรแกรมเพื่อใช้งาน  ดังต่อไปนี้
การติดตั้งโปรแกรม WS-FTP
1.             คลิกเลือกเพื่อทำการติดตั้งโปรแกรม WS-FTP
2.             เตรียมการติดตั้งโปรแกรม
3.             คลิก Next เพื่อเริ่มติดตั้งโปรแกรม
4.             แสดงหน้าต่างของข้อตกลงสำหรับการติดตั้งโปรแกรม ให้คลิกเลือก I accept … เพื่อยอมรับในเงื่อนไข และคลิกที่ Next
5.             กำหนดตำแหน่งในการจัดเก็บโปรแกรมให้คลิกที่ Next
6.             กำหนดชื่อของโฟลเดอร์ที่จะเก็บโปรแกรมให้คลิกที่ Next
7.             แสดงหน้าต่าง Start Copying Files คลิกที่ Next
8.             แสดงสถานะของการติดตั้งโปรแกรม
9.             คลิกที่ Finish เมื่อสิ้นสุดการติดตั้งโปรแกรม

การใช้งานโปรแกรม WS-FTP
      เมื่อติดตั้งโปรแกรม WS-FTP เรียบร้อยแล้ว จะต้องกำหนดค่าเพื่อใช้งานในโปรแกรม โดยสามารถที่จะปฏิบัติได้ ดังต่อไปนี้
1.             ปรากฏหน้าจอ Welcome คลิกที่ Next
2.             ปรากฏหน้าจอ Site Name สำหรับกำหนดชื่อของ Site เพื่อไว้จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดที่อัพโหลดไปยังเครื่องแม่ข่าย ( Server )  เช่นเดียวกับการกำหนดโฟลเดอร์ไว้ที่เครื่องแม่ข่าย  เช่น kulrapee  แล้วคลิกที่ Next
3.             ขั้นต่อมาจะปรากฏหน้าจอ Server Address เพื่อกำหนดหมายเลข IP Address ของเครื่องแม่ข่ายที่เราต้องการจะนำข้อมูลไปอัพโหลดไว้ เมื่อกำหนดเรียบร้อยแล้วให้คลิกที่ Next
4.             User Name และ Password จะต้องถูกกำหนดเมื่อเราได้ขอพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลของเว็บไซต์กับเว็บไซต์ที่ให้บริการ หรือผู้บริการด้านอินเตอร์เน็ต (ISP) ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการเช่าพื้นที่ หรือการขอพื้นที่ฟรีก็ตาม
5.             Connection Type จะต้องกำหนดรูปแบบของการติดต่อให้เลือก FTP แล้วคลิกที่ Next
6.             Finish จะแสดงรายละเอียดสำหรับการติดต่อกับเครื่องแม่ข่าย ( Server ) รวมทั้ง User Name และ Password ทั้งหมดที่ได้กำหนดไว้ในขั้นตอนข้างต้น แล้วคลิกที่ Finish
การอัพโหลดข้อมูล (Upload)
        หลังจากที่ได้ขอพื้นที่ในการเก็บโฮมเพจของเราผ่านทางเว็บไซต์ www.thcity.com ต่อมาก็ได้ทำการติดตั้งโปรแกรม WS-FTP รวมทั้งการกำหนดค่าเพื่อใช้งานโปรแกรม WS-FTP และขั้นตอนต่อไปคือ การอัพโหลด (Upload) ข้อมูลของโฮมเพจผ่านทางเว็บไซต์ที่ขอใช้บริการ สามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังต่อไปนี้
1.             ดับเบิ้ลคลิกที่สัญลักษณ์ของโปรแกรม WS-FTP ที่หน้าจอ Desktop
2.             จะปรากฏหน้าต่างแรก คือ Tip of the Day ถ้าเราการที่จะอ่านต่อไป ให้เลือก Next Tip แต่ถ้าไม่ต้องการให้เลือก Close
3.             ลำดับต่อมาจะปรากฏหน้าต่างของการอัพโหลด (Upload) ข้อมูล ซึ่งจะสังเกตได้ว่าข้อมูลที่ปรากฏในช่อง Address, User ID, Password จะปรากฏให้เราโดยอัตโนมัติ
4.             จะปรากฏ Site Manager ที่ได้ตั้งไว้แล้ว ให้คลิกที่ชื่อของ Sites          Connect
5.             ด้านขวามือจะปรากฏชื่อของ Site ที่ได้เลือกในการติดต่อเพื่อรอรับข้อมูลที่เราจะอัพโหลด (Upload) จากด้านซ้ายมือโดยใช้วิธีคลิกที่ลูกศรซึ่งอยู่ตรงกลางทั้งสองฝั่ง เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการอัพโหลดข้อมูลจากเครื่องของเราไปไว้เครื่องแม่ข่ายที่เราได้ขอพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลไว้
6.             เมื่อคลิกที่ Connect จะสามารถเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าต่าง ๆ คือ
               Connection Wizard     :   การกำหนดค่าเพื่อใช้งานโปรแกรม WS-FTP
               Site Manager               :   กำหนด Site สำหรับการจัดเก็บข้อมูลในฝั่งเครื่องแม่ข่าย
7.   หรือเมื่อคลิกที่ Connection Wizard เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าสำหรับการใช้งานในโปรแกรม   WS-FTP
เว็บไซต์ที่ให้บริการพื้นที่สร้างโฮมเพจฟรี

http://www.hypermart.net
 http://www.thai.net
http://www.freewebsites.com
http://.freeservers.com
http://www.thaitopsites.com
http://www.thai4free.com